อาหารอิตาเลี่ยน มีอะไรบ้าง Italian Cuisine

Most Famous

พิซซ่า อิตาเลี่ยน Italian Pizza

     หากจะถามว่า อาหารอิตาเลี่ยน มีอะไรบ้าง สิ่งแรกที่คนนึกถึงเลยก็คือพิซซ่า พิซซ่าคือหนึ่งในอาหารอิตาเลี่ยนที่คนไทยนิยมรับประทานกันอย่างแพร่หลาย มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานตั้งแต่สมัยศตวรรณที่ 6 ซึ่งในสมัยนั้นมีการผสมผสานสิ่งต่างๆเข้ากับขนมปัง ไม่ว่าจะเป็นชีส CHEESE มะเขือเทศ แฮม สมุนไพร ซึ่งถูกวางเรียงรายอยู่บนหน้าขนมปังลักษณะกลมแบน ซึ่งจะถูกนำไปปรุงให้สุกด้วยการอบในเตาไม้เพื่อรสชาติที่ดี และกลิ่นที่หอมหวล ด้วยรสชาติที่หลากหลายและการปรุงที่ไม่ยุ่งยาก เพียงเตรียมแป้งและวัตถุดินอื่นๆที่ใช้เป็นเครื่องเคียงวางบนขนมปัง ทำให้พิซซ่ากลายเป็นอาหารที่ชาวอิตาลีนิยมรับประทานกัน พิซซ่า อิตาเลี่ยน แท้นั้นจะต้องมีส่วนประกอบของมะเขือเทศซานมาร์ซาโน และชีสมอสซาเรลล่า ซึ่งทำจากน้ำนมควายที่เลี้ยงในแหลมแคมปาเนียและลาซิโอ ที่สำคัญที่สุดคือซอสมารินาร่ายอดฮิตของอิตาลี รสชาติมาตรฐานนั้นจะมีส่วนประกอบของแฮมและเห็ดเป็นหลัก

     ต่อมาศตวรรษที่ 19 ได้มีชาวอิตาลีอพยพไปประเทศอเมริกาจำนวนมาก ซึ่งทำให้มีการทำพิซซ่ารับประทานกัน ซึ่งก็ทำให้เป็นที่โด่งดังในอเมริกาถึงขนาดที่ว่าในแต่ละวันมีคนอเมริกาบริโภคพิซซ่ามากถึง 13%  ซึ่งหลังจากที่โลกเราสามารถเดินทางไปมาหาสู่กันอย่างไร้พรมแดน พิซซ่าก็เป็นอาหารที่ประชากรโลกเข้าถึงและรู้จักเกือบทั้งหมด ซึ่งแต่ละประเทศนั้นจะใช้วัตถุดิบที่สามารถหาได้ในแต่ละภูมิภาค และลักษณะของหน้าก็จะปรับเปลี่ยนไปตามความอุดมสมบูรณ์ของวัตถุดิบของแต่ละทวีป ส่วนประเทศไทยเรานั้นร้านพิซซ่าที่เรารู้จักกันดี ก็มี The Pizza Company, Pizza Hut Narai Pizzeria ส่วนรสชาติที่เรานิยมรับประทานกันส่วนใหญ่ก็จะเป็น ฮาวายเอี่ยน ต้มยำกุ้ง ซีฟู๊ด แฮมชีส

Main Course

พาสต้า อิตาเลี่ยน
Italian Pasta

   พาสต้า อาหารหลักดั้งเดิมที่เก่าแก่ของชาวอิตาลี จากประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 900 ปี อาหารชนิดนี้ได้ถูกบันทึกไว้ในว่าเป็นอาหารพื้นเมืองของชาวเกาะซิซิลี โดยการผสมผสานระหว่างแป้งสาลีและไข่ไก่ ผสมกับน้ำในสัดส่วนที่พอเหมาะที่จะทำให้ขึ้นรูปเป็นแผ่นหรือเส้นได้ จากนั้นก็นำไปปรุงสุกโดยการต้มหรือผิงไฟให้เส้นฟูจนสามารถรับประทานได้
   พาสต้าสามารถแบ่งออกได้เป็นสองประเภทใหญ่ๆ คือ พาสต้าแห้ง กับพาสต้าสด โดยเส้นพาสต้าแห้งนั้นส่วนใหญ่จะผลิตขึ้นโดยอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ผ่านกระบวนการผสม นวด อัดรีด โดยเครื่องจักร ซึ่งก่อนจะนำไปประกอบอาหารต้องนำไปแช่น้ำให้นิ่มเสียก่อน ส่วนพาสต้าสดนั้นก็มีทั้งผลิดแบบแฮนเมด และแบบเครื่องจักร แต่ส่วนใหญ่จะผลิตในกลุ่มชาวพื้นเมืองเล็กๆเพื่อจำหน่ายในหมู่บ้านและลูกค้าที่ต้องการความสดใหม่ และเอกลักษณ์ของรสชาติเป็นพิเศษ เพราะไม่สามารถเก็บรักษาไว้ได้นานเหมือนพาสต้าแห้ง
   พาสต้านั้นมีความหลากหลายมาก จากการรวบรวมชนิดของพาสต้าต่างๆทั่วโลกที่มีการผลิตนั้น สามารถแบ่งได้มากถึง 300 รูปแบบ และถูกเรียกต่างกันไปมากถึง 1300 ชื่อตามแต่ละสถานที่ โดยมีการทำเป็นหลายลักษณะ เส้นตัน เส้นแบบหลอด เส้นตรง เส้นหยัก เส้นเกลียว และยังมีหลายรสชาติ หลายสี เช่นสีเหลือง สีดำ สีส้ม ตามส่วนประกอบที่สำคัญของแต่ละสูตร
    พาสต้าอิตาเลี่ยนที่ดั้งเดิมนั้นจะถูกเสริฟโดยวิธีการผสมกับซอสหรือเครื่องปรุงรสต่างๆ เราจะเห็นได้จากเมนูที่คุ้นเคยเช่น สปาเกตตี้คาโบนาร่า หรือเส้นดำผัดขี้เมา ส่วนที่เราเห็นพาสต้าที่ใส่อยู่ในซุปนั้นมีต้นตำรับมาจากบรูไน
   ส่วนในประเทศไทยนั้นเราจะเห็นพาสต้าถูกเสริฟออกมาเป็นหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสปาเกตตี้คาโบนาร่า มักกะโรนีซีส สปาเกตตี้เส้นดำผัดขี้เมา ลาซานญ่าผักโขมอบซีส ซึ่งหากเห็นส่วนประกอบของเส้นที่ทำขึ้นจากแป้งและไข่ไก่แล้ว สิ่งเหล่านั้นล้วนคือพาสต้าที่มีต้นกำเนิดจากประเทศอิตาลี ผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์ของประชาชนแต่ละภูมิประเทศเกิดเป็นอาหารฟิวชั่นที่ทำให้บางครั้งต้นตำรับยังตื่นเต้นที่จะได้มาลิ้มลองวัตถุดิบของไทยที่ใส่ใจในการทำแบบอิตาลี

First basic course

ริซอตโต้ Risotto

   จริงๆแล้วริซอตโต้นั้น เป็นอาหารดั้งเดิมของชาวอิตาลี แต่ด้วยความที่มันธรรมดาเกินกว่าที่ชนชาติอื่นจะนำไปต่อยอด เพราะมันก็เหมือนข้าวผัดของแต่ละประเทศ แต่ที่ต้องเรียกว่า ริซอตโต้นั้นก็เพราะจริงๆแล้วคำว่า RISO ก็คือข้าวในภาษาอิตาลี ส่วนการนำข้าวไปปรุงรสในภาษาอิตาลีก็คือ Rissto นั่นเอง ส่วนที่ทำไมไม่ค่อยมีคนเรียกว่า ริซอตโต้ อิตาเลี่ยน นั้นเหตุผลง่ายๆก็คือ มันเป็นศัพท์เฉพาะที่ใช้เรียกข้าวผัดอิตาเลี่ยนอยู่แล้ว จึงไม่ต้องเติมคำว่าอิตาเลี่ยนต่อท้ายมันทุกคนก็จะเข้าใจได้อยู่แล้ว
   แต่การที่จะเรียกว่าริซอตโต้ได้นั้นก็มีความพิเศษอยู่หลายอย่าง ไม่ใช่ว่าใครจะทำข้าวผัดแล้วจะไปเรียกริซอตโต้ได้ ริซอตโต้นั้นจะต้องประกอบด้วยพันธุ์ข้าวขาวทางตอนเหนือของประเทศอิตาลีที่มีแป้งสูง เมล็ดสั้น ซึ่งพันธุ์ข้าวที่มีชื่อเสียงในอิตาลีนั้นมีหลายพันธุ์ ได้แก่ Arborio, Baldo, Carnaroli, Maratelli, Padano, Roma และ Vialone Nano ซึ่งพันธุ์ที่ได้รับการยอดรับว่าเป็นพันธุ์ที่ดีที่สุดในการทำริซอตโต้นั้นคือ Vialone Nano ซึ่งเป็นพันธุ์ที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของอาหารอิตาเลี่ยนได้อย่างแท้จริง เนื่่องจากจะคงรสชาติของครีม ซอส และเครื่องปรุงรสไว้ได้มากที่สุด
   ส่วนริซอตโต้ในประเทศไทยนั้น คงมีคนรู้จักไม่มากนักเพราะด้วยการปรุงให้ถูกปากคนไทยต้องยอดรับว่าน้อยคนนักที่จะทำได้ และนักชิมน้อยคนนักที่จะเข้าใจ เพราะส่วนประกอบส่วนใหญ่จะค่อนข้างเลี่ยน แต่ก็มีการเปลี่ยนส่วนผสมเครื่องเคียงให้ถูกปากคนไทยมากยิ่งขึ้น โดยจะเห็นตามร้านอาหารอิตาลีในประเทศไทยที่มักจะทำริซอตโต้ที่มีส่วนผสมที่ตัดเลี่ยนได้ดี เช่น ริซอตโต้ทะเล ไก่ ปลา โดยใช้ซอสที่มีรสชาติแตกต่างกันไป ไม่ได้ทำแบบต้นตำรับที่จะใช้เนย ครีม น้ำมันมะกอก เห็ดและแฮม เป็นส่วนประกอบพื้นฐานเท่านั้น ซึ่งนั่นก็ทำให้เกิดความหลากหลายมากขึ้นในการบริโภค และเพิ่มทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการลิ้มลองความผสมผสานทางวัฒนธรรมดั้งเดิมของอิตาลีและความอุดมสมบูรณ์และหลากหลายของวัตถุดิบของประเทศไทย

Superb dessert

เจลาโต้ Gelato

   หากจะพูดถึงไอศกรีมที่เด็ดที่สุดในโลกแล้ว ทุกคนคนจะคุ้นหูกับคำว่า Gelato เป็นภาษาอิตาลีที่แปลว่าไอศกรีมนั่นเอง หลายคนที่เคยลิ้มลองรสชาติของไอศกรีมสัญชาติอิตาลีแล้วนั้นล้วนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าลักษณะที่โดดเด่นทั้งเนื้อไอศกรีมที่เนียนนุ่มละมุนลิ้น และกลิ่นหอมของรสชาติที่มีเอกลักษณะเฉพาะยากจะเลียนแบบ ซึ่งเทคนิคตรงนี้เนื่องจากสูตรของเจลาโต้นั้นจะใช้นมเป็นส่วนผสมหลัก ส่วนครีมเป็นส่วนผสมรองทำให้ไขมันน้อยกว่าไอศกรีมประเภทอื่น เมื่อถึงขั้นตอนการเปลี่ยนสถานะจะทำให้โมเลกุลของของเหลวเล็กมากกว่าวัตถุดิบที่มีไขมันเยอะจึงทำให้เจลาโต้นั้นเนียนนุ่มละมุนลิ้นนั่นเอง
    ส่วนอีกความลับหนึ่งที่ทำให้กลิ่นของมันยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของวัตถุดิบ นั่นคือความเร็วรอบในการปั่นเจลาโต้นั้นจะใช้ความเร็วต่ำ ทำให้อากาศเข้าไปผสมน้อย ปฏิกริยาทางเคมีแกละกายภาพของวัตถุดิบจึงเปลี่ยนแปลงน้อยทำให้สามารถคงรสชาติของส่วนผสมต่างๆไว้ได้เป็นอย่างดี
    รสชาติต้นตำรับของไอศกรีมอิตาลีนั้นเกิดขึ้นบนเกาะซิซิลี จากชาวประมงผู้หลงไหลการทำขนม รสชาติต้นแบบนั้นมีวานิลลา ฮัทเซลนัท คัสตาร์ด ช็อกโลแลต ซึ่งจะมีกลิ่นและเนื้อที่เป็นเอกลักษณ์ตามที่กล่าวไปข้างต้น ภายหลังสูตรการทำเจลาโต้ได้โด่งดังไปถึงอเมริกา ทำให้บริษัทไอศกรีมสัญชาติอเมริกาเริ่มก่อตั้งขึ้นตามที่เรารู้จักกัน อาทิ Haagen-Dazs, Ban and Jerry’s ส่วนแบรนด์ไอศกรีมสัญชาติอิตาลีแท้ๆนั้น แอดมินจะมานำเสนอให้ทุกท่านรับทราบกันอย่างแน่นอน โปรดติดตาม..

อาหารอิตาเลียนมีอะไรบ้าง

      อาหารอิตาเลี่ยน มีหลากหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดนั้นก็มีเอกลักษณ์และวิธีการทำแตกต่างกัน แต่ชนิดที่เรารู้จักและนิยมรับประทานกันก็จะมีทั้ง พิซซ่า พาสต้า รวมถึงสปาเกตตี้ มักกะโรนี ลาซานญ่า ข้าวผัดอิตาลี ริซอตโต้ และที่ขาดไม่ได้คือไอศกรีมอิตาลีที่โด่งดังนั่นก็คือ เจลาโต้ ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากไอศกรีมของประเทศอื่นๆอย่างชัดเจน

ประวัติอาหารอิตาลี 

    ส่วนใหญ่แล้วอาหารอิตาลีนั้นมีประวัติมายาวนานมากกว่าพันปี เอกลักษณ์ที่สำคัญของอาหารอิตาลีคือวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูง และรูปแบบวิธีทำที่แปลกและล้ำสมัย เกิดขึ้นในเกาะซิซิลี และแพร่หลายไปสู่อเมริกาในช่วงที่มีอพยพชาวอิตาเลี่ยน จนทำให้วัฒนธรรมทางอาหารของอิตาลีแพร่ขยายไปทั่วโลก เกิดความผสมผสานของอาหารอย่างมากมาย

อาหารอิตาลี ภาษาอังกฤษ

      อาหารอิตาลี ภาษาอังกฤษนั้น หากจะแปลกันแบบกำปั้นทุบดินแล้วก็แปลได้ว่า Italian cuisine ส่วนอาหารแต่ละประเภทนั้นจริงๆแล้วก็เรียกกันแบบทับศัพท์ภาษาอิตาลีกัน เนื่องจากเป็นศัพท์ที่เรียกกันเฉพาะ และสามารถออกเสียงได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น Pizza Pasta Risotto Gelato ไม่มีมีการแปลงแต่อย่างใด จึงสามารถเข้าใจได้ง่ายและไม่สับสนในการเรียก

สูตรอาหารอิตาเลียน

      สูตรอาหารอิตาเลียนนั้น เอาจริงๆก็ไม่ได้ยากแบบว่าจะต้องมีสูตรเฉพาะเนื่องจากวิธีการทำนั้นค่อนข้างที่จะถูกกำหนดไว้อย่างเรียบง่าย ไม่ว่าจะเป็นการทำพิซซ่า พาสต้า หรือริซอตโต้ แต่ต้องเน้นวัตถุดิบหลักที่ควรจะใช้แบรนด์ที่ผลิตมาจากประเทศอิตาลีจริงๆซึ่งจะทำให้กลิ่นไอของอิตาลีอบอวนมาถึงปลายจมูกของผู้ที่ได้ลิ้มลอง

Italian cuisine
Photos